ความเชื่อเกี่ยวกับแก้วโป่งข่าม

ความเชื่อ แก้วโป่งข่ามมีเทวดารักษา

 

             ในความเชื่อทางเอเชียนั้นไม่ละเลยเรื่องทางจิตวิญญาณกับเรื่องทางวัตถุ เห็นได้ว่าความเชื่อของไทยเรานั้นกล่าวไว้ว่า ในบ้านย่อมมีผีบ้านผีเรือน ที่ดินย่อมมีเจ้าที่ ในป่ย่อมมีเจ้าป่า ในเขาย่อมมีเจ้าเขา แต่ละสถานที่ทั้งในเมือง ในป่า ยังมีจิตวิญญาณที่เรามองไม่เห็นคอยดูแลรักษาสถานที่ รวมทั้งสิ่งต่างๆ ณ บริเวณนั้น พรานป่าก่อนออกล่าสัตว์ก็ต้องเคารพเจ้าป่า เพราะเชื่อกันว่าสัตว์ป่า และของป่าต่างๆ นั้นมีเจ้าป่าเจ้าเขารักษาอยู่ หากไม่ทำการขอเสียก่อนอาจเกิดวิบัติแก่ตนเองได้

 

                แก้วโป่งข่ามก็มีเทวดารักษาเช่นกัน เทวดาประจำแก้วนั้นมี และแก้วแต่ละดวงแต่ละเรือนนั้นเปรียบเสมือนเรือนที่อาศัยของเทพยดาเหล่านั้น เทพที่รักษาก็มีหลายเผ่าหลายนิกาย หากเป็นแก้วที่มาจากต่างประเทศไกลๆ ก็อาจเป็นเทพของบ้านนั้นเมืองนั้น เทพเจ้าบางองค์เป็นเทพต่างศาสนาก็มี แต่ท่านเหล่านี้มีสัมมาทิฏฐิ หากเราปฏิบัติจิตทำตนเป็นคนดีเป็นอันใช้ได้ เพราะโลกวิญญาณของท่านสื่อถึงกันด้วยจิตเป็นใหญ่ นอกจากนี้แก้วบางดวงมีเทพเป็นพญานาครักษา บ้างเป็นฤาษี บ้างเป็นคนธรรพ์ ซึ่งผู้ที่ได้ทิพยจักษุจะรู้ได้ดี

 

 

 

               และแก้วโป่งข่ามก็เป็นแก้วอีกดวงหนึ่งที่มีความเชื่อว่ามีเทวดาปกปักษ์รักษาอยู่ ดังนั้นเราจึงควรดูแลรักษา และบูชาดวงแก้วนี้เป็นอย่างดี โดยอาศัยหลักอยู่  2  ประการ คือ ประการแรก การปฏิบัติภายนอก ได้แก่ การบูชาด้วยดอกไม้หอม  การสรงน้ำบูชาแก้วในวันพระและวันเปลี่ยนนักษัตร   ประการที่สองการปฏิบัติภายใน  ได้แก่การสร้างคุณธรรมในใจตนจนสามารถเข้าสู่เทวสมาคม  หมายถึงการสร้างคุณธรรมขึ้นในใจจนเป็นที่ยอมรับของเทวดาที่รักษาดวงแก้ว  การสร้างคุณธรรมนี้ ได้แก่  การให้ทาน  รักษาศีล  และการเจริญภาวนาอยู่เป็นนิตย์ ทุกครั้งที่เข้าสู่การเจริญภาวนาให้ยกเอาคุณแก้วดวงประเสริฐทั้งสาม คือ พระรัตนตรัย อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขึ้นบูชาเป็นการไหว้ครูเบื้องต้น แล้วตั้งจิตเอาสมาธิธรรมนี้บูชาแก้วดวงประเสริฐ ถ้าแก้วดวงไม่ใหญ่เกินไปให้กำไว้ในมือยามที่นั่งภาวนา ถ้าแก้วดวงใหญ่ให้ตั้งไว้ข้างหน้าขณะเจริญภาวนา ปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำจะบังเกิดความเป็นมงคล เทพยดาที่รักษาดวงแก้วเหล่านั้นจะเอื้ออำนวยโชคลาภ ความสำเร็จ และมีอานุภาพในการปกป้องคุ้มครองได้อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

Visitors: 8,818