แก้วโป่งข่าม
ตำนานแก้วกายสิทธิ์
แก้วโป่งข่าม อีกหนึ่งหินกับความเชื่อในตำนานที่มีมานานไม่ต่ำกว่า 700 ปี และเป็นแก้วที่เป็นตำนานแห่งล้านนา ซึ่งเชื่อกันว่าแก้วโป่งข่ามเป็นแก้วศักดิ์สิทธิ์ที่หล่นมาจากฟากฟ้า กล่าวว่าแก้วโป่งข่ามนั้นร่วงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อีกเป็นสวรรค์ลำดับที่สาม หากนับจากสวรรค์ชั้นแรกคือชั้นภุมมา ชั้นที่สองคือ จาตุมหาราชิกา และชั้นที่สามคือ ดาวดึงส์ กล่าวไว้ว่าแก้วโป่งข่ามนั้นที่ถือว่าหยดลงมาจากฟากฟ้า สรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้นมีถึง 24 ดวง หรือ 24 ตระกูลด้วยกัน
ความหมายของ “แก้วโป่งข่าม”
แก้วโป่งข่าม เป็นภาษาเหนือ คำว่า “แก้ว” มีความหมายบ่งบอกในตัวชัดเจนว่า หมายถึง หินแก้วใสตามธรรมชาติจะก่อตัวขึ้นเป็นผลึกอยู่ใต้ดินหรือในถ้ำที่มีความเย็น สามารถเติบโตได้เองตามธรรมชาติคล้ายกับต้นไม้ และเมื่อเกิดการหัก แก้วก็สามารถรักษาตัวเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือหากมีสิ่งใดที่มาปะปนตัวแก้ว ธรรมชาติของแก้วจะทำการเจริญเติบโตอย่างช้าๆ แล้วห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ในตัวด้วยนับว่าเป็นเรื่องน่าอัสจรรย์ใจอย่างยิ่ง
ส่วนคำว่า “โป่ง” คือ ภายในพองลม หมายความว่า ภายในนั้นกลวงใส ดังนั้นแก้วโป่งข่ามแต่ละประเภทจึงมีลักษณะโปร่งใส และภายในมักมีแร่ธาตุอื่นๆปะปนอยู่สร้างความสวยงามให้กับตัวแก้วอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และคำว่า “ข่าม” หมายถึง ความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ยงคงกระพัน มีอำนาจวิเศษในตัว ดังนี้เรียกกันว่าข่าม ซึ่งหมายถึงความขลังตามภาษาภาคกลางที่เราได้ยินกันบ่อยๆ
แก้วโป่งข่าม จึงหมายถึง แก้วที่มีลวดลายภายในซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติอยู่ภายในตัว โดยไม่ต้องปลุกเสก แต่หากได้รับการปลุกเสกซ้ำย่อมทำให้ทวีความศักดิ์สิทธิ์สูงยิ่งๆขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว